เมนู

กุญชรวรรค ที่ 4


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามต่อไปว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ยอดปราชญ์ อันว่าองค์ 1 แห่งตัวปลวกนั้น เป็นไฉน
พระผู้เป็นเจ้านาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้
ประเสริฐ อุปจิกา นาม ธรรมดาว่าตัวปลวก ย่อมเอาดินมาทำเป็นจอมไว้ข้างบน ซ่อนตัวอยู่
้ข้างล่างหาอาหารกิน ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรก็ทำเครื่องบังคือความสำรวมในศีล
ปิดใจไว้แล้วเที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต ครั้นแล้วก็พึงแสวงหาสมณธรรมล่วงภัยได้ทั้งหมด เพราะ
เครื่องมุงเครื่องบังคือความสำรวมในศีลดุจตัวปลอกฉันนั้น นี่แหละเป็นองค์อันหนึ่งแห่งตัวปลวก
ยุติด้วยคำอันพระอุปเสนเถรเจ้าวังคันตบุตรกล่าวไว้ว่า
สีลสํวรฉทนํ โยคี กตฺวาน มานสํ
อนุปลิตฺโต วิหรติ ภยา โส ปริมุจฺจติ

ความว่า พระโยคาวจรเจ้า กระทำเครื่องมุงเครื่องบังคือสำรวมในศีลปิดใจไว้ เป็นผู้ไม่
พัวพ้นด้วยกิเลส ย่อมพ้นจากภัยได้ ดังนี้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า
แต่พระคุณเจ้าผู้เป็นปราชญ์ องค์ 2 แห่งแมวนั้นเป็นไฉนเล่า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ วิฬา-
โร นาม
ธรรมดาว่าแมว แม้จะอยู่ในระหว่างแห่งถ้ำและซอกเขา และโพรงไม้บ้านเรือน ก็ย่อม
เสาะแสวงหาแต่หนูอย่างเดียวเท่านั้น ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้า แม้จะอยู่ในบ้าน
หรือในป่าหรืออยู่ในโคนไม้ ในอัพโภกาสในเรือนว่างเปล่า ก็เป็นผู้ไม่ประมาท แสวงหาโภชนะฉัน
ย่อมนึกพิจารณาถึงกายอยู่เนืองๆ เหมือนแมวแสวงหาแต่หนูอยู่ฉันนั้น นี่แหละเป็นองค์แห่ง
แมวเป็นปฐม
ปุน จ ปรํ อีกประการหนึ่งเล่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ธรรมดาว่า
แมวย่อมแสวงหาอาหารแต่ในที่ใกล้ ๆ เท่านั้น ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรก็พึง
พิจารณาแต่ความเกิดความดับในอุปทานขันธ์ทั้ง 5 เหล่านี้ว่า เบญจขันธ์คือ รูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นดังนี้ เบญจขันธ์เกิดด้วยเหตุดังนี้ เบญจขันธ์ดับด้วยเหตุดังนี้
เหมือนกับแมวอันหากินแต่ในที่ใกล้ ๆ ฉันนั้น นี่แหละเป็นองค์แห่งแมวคำรบ 2 ยุติด้วยพระ
พุทธฎีกา อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า